Nike G.T. Cut 3 Turbo Black Label เป็นรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นใหม่ที่มีราคาสูงถึง 210 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง G.T. Cut 3 ที่มีราคาปกติอยู่ที่ 190 ดอลลาร์สหรัฐ การเพิ่มราคาขึ้น 20 ดอลลาร์อาจเกิดจากการที่รองเท้ารุ่นนี้เป็นสี Black Label ซึ่งเป็นสีพิเศษที่มีราคาสูงกว่าสีปกติ เช่นเดียวกับกรณีของรองเท้า KD8 ที่สี Black Label มีราคาสูงกว่าสีทั่วไปถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าราคาจะสูง แต่รองเท้ารุ่นนี้มีการเพิ่มเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นบาสเกตบอล ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น
พื้นรองเท้า (traction) ของ G.T. Cut 3 Turbo มีรูปแบบคล้ายกับรุ่น G.T. Cut 3 ซึ่งให้การยึดเกาะที่ดีมาก แม้จะทดลองบนพื้นไม้ที่บ้านซึ่งต่างจากพื้นคอร์ทบาสเกตบอล แต่ก็รู้สึกได้ถึงการยึดเกาะที่แข็งแรง พื้นรองเท้าทำจากยางแข็ง (solid rubber) ซึ่งให้ความทนทาน แต่ก็อาจไม่เหมาะสำหรับการเล่นบนพื้นกลางแจ้ง เนื่องจากยางค่อนข้างนิ่มและอาจสึกหรอได้ง่ายหากใช้บนพื้นคอนกรีตหรือพื้นแข็งอื่นๆ ดังนั้นรองเท้ารุ่นนี้จึงเหมาะสำหรับการเล่นในร่มมากกว่า
รองเท้ารุ่นนี้มี Heel-to-Toe Transition ที่ดีมาก เนื่องจากมีรูปทรงโค้งที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างลื่นไหลและมีแรงส่งที่ดี การเพิ่มแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ (carbon fiber plate) ที่บริเวณพื้นรองเท้าช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ทำให้รู้สึกกระชับและมีแรงส่งที่ดีเมื่อเคลื่อนไหว แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์นี้ยังช่วยให้รองเท้ามีความยืดหยุ่นในระดับที่เหมาะสม แม้จะต้องใช้แรงกดเล็กน้อยเพื่อให้งอได้ แต่ก็ไม่แข็งจนเกินไป
Nike G.T. Cut 3 Turbo ใช้เทคโนโลยี ZoomX foam ตลอดทั้งพื้นรองเท้า ซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มและมีแรงเด้งกลับที่น่าสนใจคือมีการเพิ่มแผ่นรองพื้น (insole) ที่ทำจาก ZoomX foam อีกชั้นหนึ่ง แม้แผ่นรองพื้นจะดูบาง แต่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเมื่อสวมใส่ ช่วยเพิ่มความนุ่มทั้งบริเวณฝ่าเท้า กลางเท้า และส้นเท้า นอกจากนี้ยังมีแรงเด้งกลับ ที่ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อเคลื่อนไหว
ส่วน Upper ของรองเท้าทำจากวัสดุที่คล้ายพลาสติกยาง (rubbery plastic) ซึ่งให้ความนุ่มและยืดหยุ่น แต่ก็ยังคงความแข็งแรงและรองรับการเคลื่อนไหวได้ดี มีการเสริมแผ่นพลาสติกคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณด้านข้างเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการเคลื่อนไหว lateral movement อย่างไรก็ตาม วัสดุที่ใช้ในส่วนลิ้นรองเท้าและข้อเท้ามีการเสริมPaddingน้อย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่กระชับเท่าที่ควร
รองเท้ารุ่นนี้มีขนาดที่ค่อนข้างกระชับ โดยเฉพาะในส่วนของ toe box ที่แคบและไม่ยืดหยุ่นมากนัก หากผู้ใช้ไม่ชอบความรู้สึกคับอาจต้องเลือกขนาดใหญ่ขึ้นครึ่งนัมเบอร์ สำหรับผู้ที่มีเท้าแคบหรือชอบความรู้สึกกระชับ การเลือกขนาดปกติจะเหมาะมาก
รองเท้ารุ่นนี้มีระบบรองรับและการยึดเกาะที่ดีมาก เนื่องจากมี TPU heel counter และฐานที่กว้างซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเคลื่อนไหว lateral containment และ lateral stability ทำได้ดีมาก นอกจากนี้ยังไม่มีปัญหาheel slippage ทำให้รู้สึกมั่นใจขณะเล่น
น้ำหนักของรองเท้าอยู่ที่ประมาณ 11.65 ออนซ์ ซึ่งถือว่าเบากว่ารองเท้าบาสเกตบอลทั่วไป ทำให้รู้สึกเบาและคล่องตัวขณะสวมใส่ การใช้เทคโนโลยี ZoomX foam ช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความนุ่มและแรงส่งที่ดี
สี Black Label ของรองเท้ารุ่นนี้มีโทนสีดำและ gunmetal ซึ่งดูหรูหราและทันสมัย ดีไซน์โดยรวมดูดีกว่าสีของ G.T. Cut 3 ปกติ ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ไม่เพียงมีประสิทธิภาพดี แต่ยังสวยงามเหมาะสำหรับการสวมใส่ในหลายโอกาส
Nike G.T. Cut 3 Turbo Black Label เป็นรองเท้าบาสเกตบอลที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในเรื่องการยึดเกาะ แรงส่ง และความนุ่มสบาย อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงและความทนทานที่อาจไม่ดีพอสำหรับการเล่นกลางแจ้งเป็นข้อเสียที่ควรพิจารณา หากคุณเป็นนักบาสเกตบอลที่ต้องการรองเท้าคุณภาพสูงและมีดีไซน์สวยงาม รองเท้ารุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี
ข้อดีและข้อเสียของ Nike G.T. Cut 3 Turbo Black Label
ข้อดี
- การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม: รูปแบบพื้นรองเท้าช่วยให้ยึดเกาะได้ดี เหมาะสำหรับการเล่นในคอร์ทบาสเกตบอลในร่ม
- การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล: การออกแบบรูปทรงโค้งและแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้รู้สึกมีแรงส่งและคล่องตัว
- ระบบกันกระแทกที่ทันสมัย: การใช้ ZoomX foam ตลอดทั้งพื้นรองเท้าและแผ่นรองพื้นเพิ่มเติม ช่วยให้มีความนุ่มสบายและแรงดีดตัวกลับที่ดี
- วัสดุส่วน Upper ที่ดีขึ้น: วัสดุพลาสติกยางช่วยให้มีความนุ่มและความแข็งแรงในเวลาเดียวกัน เพิ่มความทนทานและกระชับ
- น้ำหนักเบา: รองเท้ามีน้ำหนักเพียง 11.65 ออนซ์ ทำให้รู้สึกเบาและคล่องตัวเหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวเร็ว
- การรองรับและยึดเกาะที่ดี: มี TPU heel counter และฐานที่กว้าง ช่วยเพิ่มความมั่นคงและป้องกันการลื่นไถล
- ดีไซน์สวยงาม: สี Black Label พร้อมลาย gunmetal ทำให้รองเท้าดูหรูหราและทันสมัย
ข้อเสีย
- ราคาสูง: ราคา 210 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,000 บาท) ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าและรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นอื่นๆ
- ความทนทานที่อาจไม่ดี: ยางพื้นรองเท้าที่นิ่มอาจสึกหรอได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อใช้บนพื้นกลางแจ้ง
- ขนาดที่คับแน่น: ส่วน toe box ที่แคบอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีเท้ากว้าง อาจต้องเลือกขนาดใหญ่ขึ้นครึ่งนัมเบอร์
- Padding น้อย: ส่วนลิ้นรองเท้าและข้อเท้ามีPaddingน้อย อาจทำให้รู้สึกไม่กระชับเมื่อเล่นเป็นเวลานาน
- ไม่เหมาะสำหรับพื้นกลางแจ้ง: พื้นรองเท้าที่นิ่มและราคาสูงทำให้รองเท้ารุ่นนี้ไม่เหมาะสำหรับการเล่นบนพื้นคอนกรีตหรือพื้นแข็งอื่นๆ
- ต้องใช้เวลาในการปรับตัว: วัสดุส่วน Upper อาจแข็งในช่วงแรกและต้องใช้เวลาในการยืดหยุ่นและปรับตัวให้เข้ากับรูปเท้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น